มาเก๊าคาสิโน

อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วหากจะกล่าวถึงคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดเชื่อว่าทุกคนต้องคิดถึงประเทศมาเก๊าที่เรียกได้ว่าเป็นดินแดนแห่งสวรรค์สำหรับเหล่าบรรดานักเสี่ยงโชคทั้งหลาย โดยในปัจจุบันนี้ที่นับได้ว่าสถานที่เล่นพนันของที่นี้มีขนาดใหญ่กว่า Las Vegas อย่างน้อย 4 เท่าเลยทีเดียว

เมื่อในปี 2019  สำนักข่าวได้มีการออกมารายงานว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีคาสิโนมาเก๊า 33 แห่งด้วยกันที่สามารถสร้างรายได้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ซึ่งหากนำไปเทียบกับในปีอื่น ๆ ก็บอกเลยว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำและมาในช่วงทศวรรณที่ 1840  ผู้บริหารชาวโปรตุเกสได้เริ่มมีไอเดียและความคิดใหม่ๆ  เพื่อจะหาวิธีการสร้างรายได้เพื่อหยุดยั้งการไหลเวียนของคนที่ย้ายมาที่ฮ่องกง ผู้อยู่อาศัยทำงานรววมไปถึงค้าขายด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นการทำงานในเหมืองหรือแม้แต่พื้นที่เพราะปลูกไปจนถึงการควบคุมเกมเฮาส์

ในอดีตได้มีคนเคยออกมาวิจารย์ว่ามาเก๊าเป็นกองขยะที่มีแต่วัสดุและศีลธรรมแต่สำหรับประชาชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ในจีนและฮ่องกงเขากลับมีความคิดที่สวนทางอย่างสิ้นเชิงเพราะพวกเขาถือว่าเป็นที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นอยู่ใกล้พอที่จะไปถึงได้แบบไม่ทำให้เกิดปัญหาและอยู่ไกลพอที่จะทำสิ่งที่ไม่สามารถทำได้บนจีนแผ่นดินใหญ่นั่นเอง

หลังจากนั้นในช่วงของทศวรรษที่ 1920 เรียกได้ว่าเป็นยุคพีคสุดของการพนันที่เริ่มเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากเนื่องจากการผูกขาดแบบใหม่และจากนั้น 40 ปีหลังจากที่รัฐบาลให้สิทธิ์ สแตนลีย์ โฮ (Stanley Ho) ในแฟรนไชส์มาเก๊าด้วยการเอาชนะการแข่งจากบารอนก็ทำให้อุตสาหกรรมนี้กลับมาอยู่ในยุคที่เฟื่องฟูอีกครั้งทันที  โดย Ho ยังคงมีอุดมการณ์ที่เหนี่ยวแน่นในอุตสาหกรรมการพนันมาตลอดจนมาถึงในจุดที่เขามีกรรมสิทธิ์ 33% ของฉากการพนันในมาเก๊าทั้งหมดและทรัพย์สินทั้งหมดของคาสิโนที่โด่งดังที่สุดอย่าง Lisboa

รายได้อุตสากรรมคาสิโนในมาเก๊า

อุตสากรรมคาสิโนในมาเก๊า

สำหรับมาเก๊าถือได้ว่าเป็นเมืองที่เคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนทำให้กลายเป็นเมืองหลวงแห่งการพนันของโลกและบอกเลยว่าที่มาเก๊าแห่งนี้สามารถสร้างรายได้จากการพนันมากกว่ารัฐเนวาดาทั้งหมด  โดยจีนได้เข้าปกครองมาเก๊าทั้งหมดตั้งแต่ปี 2542 และในขณะที่การพนันยังคงเป็นส่ิงที่ผิดกฎหมายภายใต้กฏหมายของจีนมาเก๊าอยู่ภายใต้การปกครองพิเศษ

ก่อนที่มาเก๊าจะกลับสู่การปกครองของจีนที่นี้ได้เต้มไปดวยกลุ่มอาชญากรรมที่เกิดการแข่งขันกันสูงขึ้นเพื่อเข้าถึงห้อง VIP  ของคาสิโนที่เชื่อถือได้ โดยห้องเหล่านี้เองที่จะเป็นห้องเดียวกันที่ปัจจุบันเป็นหนึ่งของผู้ที่มีส่วนร่วมในการขยายตัวของที่นี้มากที่สุดและยังเป็นที่ตั้งของเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยและรายได้ส่วนใหญ่ที่จะได้มาจากห้อง Private และมอบสิทธิพิเศษให้กับเหล่าบรรดานักเสี่ยงโชคที่ร่ำรวยมากกว่าการหารายได้จากพยุหะ  ในปี 2013 ได้มีการรายงานว่า 66%ของรายได้ทั้งหมดที่เกิดจากคาสิโนส่วนใหญ่แล้วมากจากลูกกลิ้งสูง  จากนั้นที่มาเก๊าแห่งนี้ก็ได้รับอิสระภาพและได้กลายเป็นบ้านของการพนันและเป็นเมืองหลวงแห่งการพนันของโลก

มาเก๊า เป็นเขตปกครองพิเศษที่อนุญาตให้เปิดคาสิโนได้อย่างถูกกฎหมายมาอย่างยาวนานมากแต่ก็ดูเหมือนว่าทางรัฐบาลต้องการที่จะกำกับดูแลใหม่และส่งผลให้หุ้นกลุ่มนักท่องเที่ยว โรงแรม คาสิโนเคยร่วงลงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยทางรัฐจะเข้าไปดูแล 3 ส่วนด้วยกันคือ

  1. การต่อสัญญาอนุญาตเปิดคาสิโนในเขตมาเก๊าระหว่างรัฐและผู้ลงทุนต่อไปอีก 20 ปี
  2. ให้นักลงทุนรายย่อยในมาเก๊ามีโอกาสที่จะทำการถือหุ้นในธุรกิจคาสิโนไม่น้อยกว่า 10%
  3. กำกับและดูแลเรื่องความโปร่งใสให้มากย่ิงขึ้นและเรื่องการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ทางรัฐเห็นว่ายังไม่เหมาะสมเพราะอาจจะนำไปสู่การเกี่ยวข้องกับเรื่องการฟอกเงินและเลี่ยงภาษีได้นั่นเอง

เรียกได้ว่าที่มาเก๊าสามารถเติบโตระดับโลกมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะธุรกิจคาสิโนที่ถือได้ว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจมาเก๊าเลยก็ว่าได้และเศรษฐกิจของที่นี้กว่า 90% มาจากธุรกิจคาสิโนที่ส่งผลให้ประชาชนในเขตนี้มีฐานะร่ำรวยตามไปด้วย ปัจจุบันมาเก๊ามีคาสิโนชื่อดังมากมายที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวและนักเสี่ยงโชคทั่วโลกและเชื่อว่าหลังสถานการณ์โควิดครั้งนี้ที่นี้ก็จะกลับมาคึกคักและเต็มไปด้วยผู้คนมากมายเช่นเดิม