จุดเริ่มต้นคาสิโนสิงคโปร์

ประเทศสิงคโปร์ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เป็นสวรรค์ของเหล่าบรรดานักพนันที่มีคาสิโนสุดยิ่งใหญ่อลังการติดอันดับ Top ของโลกเลยทีเดียว อีกทั้งใกล้กับไทยบ้านเราอีกด้วยที่ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ  2 ชั่วโมงกว่าเท่านั้น

โดยประเทศนี้ที่คาสิโนสามารถเปิดได้อย่างถูกต้องตามกฏหมายที่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศของพวกเขาได้เป็นจำนวนมหาศาลและที่สำคัญยังเป็นแหล่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนเรียกได้ว่าคาสิโนของที่นี่เป็นหนึ่งในโมเดลที่ในหลาย ๆ ประเทศต่างก็ศึกษารวมถึงประเทศไทยของเราด้วย

จุดเริ่มต้น เกิดจากตรงนี้!

จุดเริ่มต้นคาสิโนสิงคโปร์

ภาพคาสิโนประเทศสิงคโปร์ ในอดีต

ในปี ค.ศ.2005 ที่ทางสิงคโปร์ได้มีการลงทุนใน Project IRS : Casinos INtegrated Resort  เพื่อผลักดันให้คาสิโนเป็นได้มากกว่าบ่อนทั่วไป ไม่เพียงแต่ประเทศนี้จะทำให้คาสิโนเป็นสิ่งที่ถูกกฏหมายแล้ว แต่ยังทำให้เป็นมากกว่าคาสิโน

โดยทำให้เป็นธุรกิจแบบรีสอร์ท ที่เหนือชั้นแบบครบวงจรที่ใช้เงินลงทุนถึง 5000 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้เป็นทั้งแหล่งรวมความบันเทิงแบบ Full Option  และแหล่งพักผ่อนชั้นเลิศ

โดยในที่สุดทุกอย่างก็สามารถทำออกมาได้อย่างคอมพลีทจนออกมาเป็นดินแดนแห่งสวรรค์ที่ Marina Bay และ Sentosa และในปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าที่นี้ได้กลายเป็นหนึ่งใน Land Mark ที่สำคัญของประเทศนี้ไปเรียบร้อยแล้ว  ภายในคาสิโนที่บอกเลยว่าออกแบบได้อย่างสวยหรู ดูดีไม่แพ้กับคาสิโนระดับโลกที่อื่นเลยทีเดียว

สำหรับรายได้ที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่ามากมายมหาศาลมากกว่าแสนล้านต่อปี อันส่งผลให้เกิดการจ้างงานกว่า 3 หมื่นอัตราแต่ที่สิ่งที่น่าภูมิใจที่สุดเลยนั่นก็คือ

“ทำให้สถิติอาชญากรรมในประเทศลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 1 เท่านั้นหากเทียบกับในยุคก่อนที่จะมีคาสิโน อีกทั้งยังมีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า15,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ต่อปี”

เรียกได้ว่ากว่าจะมาเป็นคาสิโนแห่งนี้ก็บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะถึงแม้ว่ารัฐบาลจะไฟเขียวให้สร้างคาสิโนก็ตามแต่ยังคงมีชาวสิงคโปร์บางส่วนที่ยังคงไม่เห็นด้วยให้เปิดคาสิโนนั่นเอง

หากย้อนกลับไปในยุคของนายก “ลี กวนยู” ที่เขาต่อต้านเรื่องนี้เป็นอย่างมากและถึงขั้นออกปากมาเลยว่า..

“หากจะเปิดคาสิโนแบบถูกกฏหมายที่นี้ก็ต้องรอให้เขาตายไปก่อนและในช่วงของค.ศ.2001 ประเทศนี้ต้องพบกับสภาวะของเศรษฐกิจที่แย่สุด”

และลูกชายของเขา “ลี เซียนลุง” ที่ครองตำแหน่งนายกที่เขาได้มีความคิดเดียวกันที่ยังคงมองว่าการสร้างคาสิโนนั้นจะส่งผลเสียต่อสังคมแต่ในที่สุดเขาทั้งสองก็ได้เริ่มลุกขึ้นมาเปลี่ยนความคิดในปี ค.ศ.2004  โดยพวกเขาได้เริ่มมองหาจุดขายให้กับประเทศตัวเองให้ดูน่าสนใจและต่างจากประเทศอื่น ๆ ในเอเชียทันที

และเมื่อปี ค.ศ.2005 ทางด้านของ “ลี เซียนลุง” ได้ลุกขึ้นมาประกาศยกเลิกนโยบายห้ามมีคาสิโนและจากนั้นเป็นต้นมาคาสิโนก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในประเทศสิงคโปร์ทันที

มาตรการคุมนักพนัน

มาตรการคุมนักพนัน

มาตรการในการคุมนักพนันของประเทศสิงคโปร์

หากจะกล่าวถึงคาสิโนของประเทศนี้ที่มีความแตกต่างจากคาสิโนในประเทศอื่น ๆ เลยนั่นก็คือ ใช้มาตรการสุดเข้มไม่ว่าจะเป็นการคิดค่าธรรมเนียมในการเล่นสำหรับชาวสิงคโปร์ครั้งละ 100 ดอลลาร์และรายปีคือ 1000  ดอลลาร์หรือตรวจ Statement

ในส่วนของชาวต่างชาติก็จะต้องมีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไปและเข้าฟรี โดยจะต้องเสียค่าแทงขั้นต่ำคือ 5 ดอลลาร์สิงคโปร์ อีกทั้งยังต้องแสดง Passport ด้วย

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีกฏหมายออกมาให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเล่นพนันของคนในครอบครัวสามารถที่จะทำการฟ้องร้องและห้ามให้ผู้นั้นเข้าคาสิโน โดยที่ศาลก็สามารถมีอำนาจตัดสินแบบนั้นได้ด้วยและจากสถิติที่ผ่านมาก็มีชาวสิงคโปร์ได้ถูกห้ามเข้าแล้วมากกว่าแสนรายเลยทีเดียว

ผลงานการสร้างคาสิโน

  • Marina Bay Sands ที่ได้รับการประมูล โดยกลุ่ม Las Vegas Sands
  • โดยในช่วงระหว่างการก่อสร้างได้เกิดวิกฤติ Hamburger ใน America ส่งผลให้การก่อสร้างล่าช้าแต่ก็ต้องเร่ิงให้เสร็จให้ทันตามสัญญา
  • MBS สร้างงานให้กับประเทศกว่า20000 คน โดยส่วนน้อยที่จะทำงานในบ่อน นอกนั้นก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงแรม ,ก่อสร้าง ,ร้านค้า ,ควบคุม เป็นต้น
  • ทั้งนี้คาดการณ์ว่า MBS จะสามารถสร้างรายได้ก้อนโตเข้าประเทศได้มากถึง 2.5 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ในปี2015
  • ประเทศนี้ที่จะมีการลงทุนจากต่างชาติที่ค่อนข้างสูงแต่กับวิกฤติในอเมริกาและยุโรปกลับไม่มี impact ใดๆ กับที่นี้เลย
  • สำหรับอัตราการว่างงานในประเทศนี้กลับไปอยู่ที่เพียงแค่1%เท่านั้นที่นับว่าต่ำมาก
  • รัฐได้มีการโปรโมท image ของ Marina Bay Sands ในรูปแบบของ Resort เป็นแหล่งพักผ่อนและคาสิโนก็เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว

สรุป

คาสิโนของประเทศสิงคโปร์ถือว่าเป็นคาสิโนที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลกเลยทีเดียวและยังเป็นแหล่งที่มีผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยวและแสวงโชคเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปีที่เปิดรับนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง